ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าทุกวันนี้ การซื้อคอนโดเป็นหนึ่งในทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องที่อยู่อาศัยในเมือง แม้พื้นที่จะเล็กเมื่อเทียบกับบ้าน แต่ดูแลง่ายและมีราคาที่จับต้องได้มากกว่า แถมยังสามารถทำกำไรด้วยการขายต่อ หรือปล่อยเช่าได้ในอนาคตทำให้หลายคนนิยมซื้อ ซึ่งขั้นตอนการซื้อคอนโดฯไม่ใช่แค่จ่ายเงินแล้วจบ เพราะคุณควรจะต้องตรวจเช็กคอนโดฯทุกครั้งก่อนการโอนซื้อขายเพื่อให้ได้ห้องคอนโดฯที่มีคุณภาพที่สุด ควบคู่กับการซื้อประกันบ้านที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมสูง ว่าแต่การตรวจเช็กคืออะไร ? สามารถทำได้เองไหม ? หรือถ้าจ้างมีราคาแพงหรือเปล่า ? ไปหาคำตอบกันดีกว่า
รู้จักกับการตรวจรับคอนโด มันคืออะไรกันนะ ?
การตรวจเช็กหรือตรวจรับคอนโดฯนั้น เป็นการตรวจสอบยอมรับคุณภาพงานก่อสร้างที่โครงการจะส่งมอบให้ผู้เป็นลูกค้าอย่างเราๆ นับได้ว่าเป็นสิทธิ์ของผู้บริโภคในการตรวจสอบการสร้างต่างๆ ว่าได้มาตราฐานหรือไม่ก่อนการตกลงรับโอนห้องเป็นชื่อของเรา
หากการสร้างไม่เป็นไปตามมาตราฐานหรือข้อตกลง เราสามารถแจ้งโครงการเพื่อแก้ไขให้ตรงตามมาตราฐานได้ เพื่อให้ได้คอนโดที่สมบูรณ์ที่สุด ซึ่งแต่ละโครงการจะมีเงื่อนไข วิธีการที่แตกต่างกันออกไป บางโครงการกำหนดให้การตรวจรับคอนโดได้ไม่เกิน 2 ครั้ง - 3 ครั้ง เท่านั้น ดังนั้นทุกการตรวจรับคอนโดฯจึงควรตรวจสอบรอบคอบและละเอียดในทุกๆ ครั้ง
ทั้งนี้นอกจากเรื่องสิทธิ์ของผู้บริโภคอย่างเราๆ แล้ว ยังช่วยให้ห้องคอนโดปลอดภัย ลดโอกาสที่อาจจะเกิดอุบัติเหตุในบ้าน ลดรายจ่าย ความยุ่งยากในการแก้ไขและซ่อมแซมในภายหลัง ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟฟ้า ระบบประปา รวมไปถึงระบบสุขาภิบาล
โดยการตรวจสอบนั้น สามารถทำได้ทั้งคอนโดมือหนึ่งหรือคอนโดมือสอง ทั้งก่อนและหลังการก่อสร้าง ซึ่งการตรวจรับคอนโดก่อนเข้าอยู่หรือก่อนรับโอนนั่น เราสามารถจ้างบริษัทหรือผู้เชี่ยวชาญ หรือจะทำการตรวจเช็กเองก็ได้
เบื้องต้นแล้ว ค่าใช้จ่ายในการตรวจก็ขึ้นอยู่กับความน่าเชื่อถือของบริษัทนั้นๆ แต่ละแห่งจะมีราคาที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์และประสบการณ์ของผู้ตรวจ ส่วนใหญ่คอนโดฯ จะราคาประมาณ 1,500 - 6,000 บาท และบ้านตั้งแต่ 4,000 - 20,000 บาท
เริ่มต้นอย่างไร ก่อนเตรียมไปตรวจรับคอนโดฯ
สำหรับการเตรียมตัวก่อนจะเริ่มตรวจห้องจริง ไม่ว่าคุณเลือกที่จะส่งมอบเพื่อให้บริษัทผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ หรือตรวจสอบเอง สิ่งที่เราควรจะเตรียมตัวและอุปกรณ์ต่างๆ ไป มีดังนี้
-
อุปกรณ์การตรวจ ในกรณีที่ตรวจสอบเอง เช่น ตลับเมตร, สติ๊กเกอร์ทำสัญลักษณ์, กล้องถ่ายรูป (เพื่อยืนยันจุดต่างๆ กับทางโครงการ), ไขควงวัดไฟ หรือที่ชาร์จโทรศัพท์ (สำหรับตรวจเช็กไฟฟ้า), ถังน้ำ (สำหรับวัดระนาบพื้นห้องน้ำ), เหรียญ, ขนมปัง (ทดสอบระบบระบายน้ำทิ้ง), ไฟฉาย, ไม้วัดระนาบหรือลูกปิงปอง เป็นต้น
นอกจากนี้ ควรไปตรวจสอบในช่วงกลางวัน จะทำให้เห็นข้อบกพร่องต่างๆ ได้ดี ชัดเจนกว่า และสำหรับใครที่ต้องการตรวจสอบเองอาจจะต้องระวังให้ดี เพราะมีโอกาสที่เราจะตรวจได้ไม่ทั่วถึง เช่น ระบบไฟฟ้า รวมถึงขาดประสบการณ์และความชำนาญในการตรวจสอบได้
โดยจุดที่ควรจะตรวจเช็กหลักๆ มี โครงสร้าง, งานผนังและงานกระเบื้อง, ประตูและหน้าต่าง, ฝ้าเพดาน, ระบบน้ำและสุขาภิบาล และระบบไฟฟ้าต่างๆ
การตรวจสภาพคอนโดก่อนรับโอนสิทธิ์นั้น เป็นสิ่งที่คุณไม่ควรมองข้าม นอกจากจะลดความยุ่งยากที่ต้องคอยซ่อมแซมในภายหลังแล้ว ยังลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ในบ้านอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้าลัดวงจร หรือน้ำรั่วไหลจนเกิดอุบัติเหตุ แต่ปัญหาเหล่านี้จะลดลงได้ ด้วยการตรวจเช็กคอนโดก่อนเสมอ ควบคู่ไปกับการทำประกันบ้าน ที่ให้ความคุ้มครองทั้งเรื่องโจรกรรม อุบัติเหตุ และเหตุไม่คาดฝัน กับ แรบบิท แคร์ ให้คุณได้คอยอุ่นใจ พร้อม แคร์ เอเจ้นท์ เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษาทุกขั้นตอน คลิกเลยที่ แรบบิท แคร์