ผลิตภัณฑ์น้ำยาปรับผ้านุ่มนั้น เป็นที่รู้กันดีว่าคุณสมบัติของมันจะทำให้เสื้อผ้าของเรามีกลิ่นหอมและเนื้อสัมผัสที่นุ่มมากยิ่งขึ้นกว่าเคย แต่! ก็มีหลายๆ คน เกิดคำถามว่าใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มมากสักเท่าไหร่ ผ้าก็ไม่หอมชื่นใจสักที อย่างมากก็มีแค่กลิ่นอ่อนๆ ติดมา ดังนั้นวันนี้เราจึงได้รวบรวมเคล็ดลับการใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มให้หอมชื่นใจมาฝาก! รับรองเลยว่าเป็นเคล็ดลับง่ายๆ ที่คุณคาดไม่ถึงอย่างแน่นอน โดยเคล็ดลับข้อที่ 1 ก็คือ...
1.ไม่ควรตากผ้าไว้ในบริเวณที่แดดจัด
แม้ว่าการตากผ้าในบริเวณที่แดดจัดจะทำให้ผ้าของคุณแห้งเร็ว แต่! มันจะทำให้เนื้อผ้าของคุณแห้งกรอบ เสื่อมคุณภาพและเสียรูปทรงได้ง่ายขึ้น อีกทั้งแสงแดดที่แรงจัดจะทำลายกลิ่นหอมของน้ำยาปรับผ้านุ่มออกไปด้วย
2.เลือกผลิตภัณฑ์น้ำยาปรับผ้านุ่มให้เป็น
หลักการง่ายๆ เลยก็คือ ให้คุณเลือกผลิตภัณฑ์น้ำยาปรับผ้านุ่มที่มีความเข้มข้นสูง เพราะตัวน้ำยาจะจับเนื้อผ้าได้ดีกว่าสูตรธรรมดาแบบทั่วๆ ไป
3.ทิ้งเวลาในการแช่ผ้าไว้สักหน่อย
แม้ว่าคุณจะใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มมากสักแค่ไหน แต่ถ้าการแช่ผ้าไว้เพียงแป๊ปเดียวก็อาจจะทำให้ตัวน้ำยา ไม่ซึมเข้าไปในผ้าได้เท่าที่ควร ซึ่งเวลาที่เหมาะสมกับการแช่น้ำยาปรับผ้านุ่มคือประมาณ 10-20 นาที
4.ไม่ต้องล้างน้ำสุดท้าย
บ่อยครั้งที่หลายๆ คน มักจะใช้น้ำเปล่าเป็นน้ำสุดท้ายในการซักผ้า ซึ่งนั่นอาจจะทำให้กลิ่นของน้ำยาปรับผ้านุ่มถูกชะล้างออกไป โดยในปัจจุบันนี้ผลิตภัณฑ์น้ำยาปรับผ้านุ่มหลายๆ แบรนด์ ได้ถูกออกแบบมาให้เป็นน้ำสุดท้ายของการซักผ้า ซึ่งพอแช่น้ำยาปรับผ้านุ่มเสร็จแล้ว คุณก็สามารถปั่นแห้งและตากได้เลยทันที ไม่ต้องล้างน้ำเปล่าอีกรอบ
5.ใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มในปริมาณที่เหมาะสม
หากคุณใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มน้อยเกินไปก็อาจจะไม่ได้กลิ่นหอม แต่ถ้าใส่มากไปก็อาจจะทำให้เกิดกลิ่นฉุนแถมเปลืองเงินซื้อน้ำยาปรับผ้านุ่มใหม่บ่อยๆ อีกด้วย ดังนั้นให้คุณใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มตามคำแนะนำข้างถุงจะเป็นปริมาณที่เหมาะสมและตัวของน้ำยาปรับผ้านุ่มจะแสดงประสิทธิภาพมากที่สุด
แต่ละเคล็ดลับที่เราได้กล่าวไปนั้น จะทำให้ผ้าของคุณหอมสดชื่นมากยิ่งขึ้นกว่าเคยอย่างแน่นอน!