ในปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลกรวมถึงไทยกำลังเผชิญกับภาวะอัตราการเกิดที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ สังคมและค่านิยมของคนรุ่นใหม่ที่มองว่าการมีลูกเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องมีความพร้อมรอบด้าน โดยเฉพาะด้านการเงิน หลาย ๆ คู่ ที่แต่งงานจึงตัดสินใจ "ไม่มีลูก" หรือเลื่อนแผนการมีลูกออกไปอย่างไม่มีกำหนด โดยการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อหลายภาคธุรกิจ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ ภาคอสังหาริมทรัพย์ ที่ต้องเผชิญกับความท้าทายและโอกาสใหม่ ๆ ในการปรับตัวเพื่อตอบสนองตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป และแม้ว่าอัตราการเกิดที่ลดลงจะเป็นวิกฤตที่หลาย ๆ ฝ่ายวิตกกังวล แต่อีกมุมหนึ่งภาวะนี้อาจจะเป็น "โอกาสใหม่" ให้ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้ลุกขึ้นมาปรับตัวครั้งใหญ่ เพราะเมื่อโครงสร้างประชากรเปลี่ยนไป ความต้องการที่อยู่อาศัยก็ย่อมเปลี่ยนตาม ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบโครงการเพื่อกลุ่มคนโสด คู่รักไม่มีบุตร หรือผู้สูงอายุที่กำลังเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งในบทความนี้จะพาไปสำรวจว่า วิกฤตอัตราการเกิดที่ลดลงนั้นส่งผลต่อวงการอสังหาริมทรัพย์อย่างไร ?
1. สถานการณ์อัตราการเกิดที่ลดลง
อัตราการเกิดทั่วโลกมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเทศพัฒนาแล้วและประเทศที่กำลังพัฒนา รวมถึงประเทศไทย ซึ่งจากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ อัตราการเกิดของไทยลดลงเหลือประมาณ 500,000 คนต่อปีในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา (เด็กไทยที่เกิดในปี 2567 มีจำนวน 461,421 คน ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 70 ปี ที่ประเทศไทยมีจำนวนเด็กเกิดไม่ถึง 5 แสนคนต่อปี และมีแนวโน้มจำนวนเด็กเกิดลดลงอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลจาก : https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_4983142 ) นี่แสดงให้เห็นว่าในอนาคตโครงสร้างประชากรจะเปลี่ยนไป โดยมีประชากรสูงวัยมากขึ้น และแรงงานวัยหนุ่มสาวลดลง
สาเหตุสำคัญที่ทำให้อัตราการเกิดลดลง ได้แก่
- ภาวะเศรษฐกิจ ค่าครองชีพที่สูงขึ้นทำให้หลายครอบครัวชะลอการมีลูก
- ค่านิยมการใช้ชีวิต คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับอิสรภาพทางการเงินและการงานมากกว่าการสร้างครอบครัว
- ปัจจัยทางสังคมและการศึกษา ผู้หญิงมีบทบาทในตลาดแรงงานมากขึ้น ส่งผลให้มีลูกน้อยลงและช้าลง
- นโยบายภาครัฐ มาตรการจูงใจให้มีลูกยังไม่เพียงพอหรือไม่สามารถสร้างผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัด
2. ผลกระทบต่อภาคอสังหาริมทรัพย์
การลดลงของอัตราการเกิดส่งผลกระทบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น...
2.1 ตลาดบ้านเดี่ยวและบ้านจัดสรร
- ความต้องการบ้านขนาดใหญ่ลดลง เนื่องจากครอบครัวมีขนาดเล็กลงหรือเลือกอยู่แบบคนเดียวมากขึ้น
- บ้านที่มีพื้นที่กว้างอาจต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบให้รองรับการใช้สอยที่หลากหลาย เช่น พื้นที่ทำงานที่บ้าน (Home Office) หรือพื้นที่สำหรับผู้สูงอายุ
2.2 ตลาดคอนโดมิเนียม
- คอนโดขนาดเล็กได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากตอบโจทย์คนโสดและคู่รักที่ไม่มีบุตร
- ทำเลที่ใกล้แหล่งทำงานและระบบขนส่งมวลชนเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อ
- ผู้พัฒนาโครงการอาจจะต้องเพิ่มและใส่ใจรายละเอียดในส่วนของพื้นที่ส่วนกลางมากยิ่งขึ้น เช่น Co-working Space & Meeting Room, EV Charger, Live & Photo Studio หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่
2.3 ตลาดอสังหาฯ เพื่อการเช่า
- แนวโน้มการเช่าแทนการซื้อเพิ่มขึ้น เพราะคนรุ่นใหม่ต้องการความยืดหยุ่นไม่ต้องการภาระผูกพันระยะยาว และราคาอสังหาฯ ที่เพิ่มขึ้นและเข้าถึงได้ยากขึ้น
- อสังหาฯ ประเภทหอพักอพาร์ทเม้นท์และคอนโดให้เช่าอาจมีโอกาสเติบโตมากขึ้น
2.4 ตลาดอสังหาฯ สำหรับผู้สูงวัย
- จำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้น ทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมกับวัยสูงอายุเติบโตขึ้น
- โครงการที่มีบริการดูแลผู้สูงอายุ เช่น Senior Living หรือ Nursing Home จะเป็นตลาดที่น่าสนใจ
3. แนวทางการปรับตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์
- พัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์คนโสดและครอบครัวขนาดเล็ก เช่น คอนโดขนาดเล็กที่มีฟังก์ชันครบครัน หรือบ้านแนวใหม่ที่ใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นบ้านขนาดใหญ่เสมอไป
- การพัฒนาโครงการสำหรับผู้สูงอายุเป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจ โดยอาจจะเพิ่มบริการสุขภาพและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสม เช่น ระบบสัญญาณฉุกเฉินและบริการดูแลสุขภาพ ใกล้แหล่งโรงพยาบาล เป็นต้น
- ขยายโอกาสสู่ตลาดอสังหาฯ เพื่อการเช่า เนื่องจากคนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่นในการอยู่อาศัยมากกว่าการเป็นเจ้าของเอง ที่มักจะต้องมีภาระหนี้สินผูกพันระยะยาว
- ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการพัฒนาโครงการ เช่น Smart Home หรือระบบบริหารจัดการอสังหาฯ ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการอยู่อาศัยให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
- พัฒนาอสังหาฯ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากผู้บริโภครุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับแนวคิด Sustainable Living มากขึ้น
จากภาพรวมของอัตราการเกิดที่ลดลงอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน จะเป็นปัจจัยที่สร้างความท้าทายให้กับหลายภาคธุรกิจ โดยเฉพาะวงการอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างประชากรและพฤติกรรมผู้บริโภค แต่ในอีกมุมหนึ่ง หากธุรกิจอสังหาฯ มองเห็นและเข้าใจการเปลี่ยนแปลงนี้อย่างลึกซึ้ง ก็อาจจะต่อยอดสู่ "โอกาสใหม่" ที่พร้อมจะสร้างมูลค่าและตอบโจทย์ความต้องการผู้คนได้อย่างตรงจุด ดังนั้นวิกฤตด้านประชากรที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง คงจะเป็นสัญญาณเตือนให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต้องเร่งปรับตัว และถ้าหากสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดเดิม ๆ และเข้าใจทิศทางของสังคมที่เปลี่ยนไป วิกฤตในครั้งนี้ก็คงจะเปลี่ยนเป็น โอกาสครั้งใหญ่ ที่จะช่วยต่อยอดธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
และสำหรับผู้ที่ต้องการปล่อยเช่า/ขายอสังหาฯ คุณก็สามารถมาลงประกาศฟรีได้ที่ Propertyhub เว็บไซต์ที่รวมประกาศขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ที่ใช้งานง่ายมากที่สุด