ใครว่ามีเงินเดือนแค่ 20,000 จะเป็นเจ้าของบ้านไม่ได้ ? ซึ่งเราขอบอกเลยว่าเรื่องนี้ไม่เกินฝัน เพราะการมีบ้านสักหลังสำหรับคนทำงานเงินเดือนประจำอาจดูเหมือนเป็นเรื่องใหญ่ แต่จริง ๆ แล้ว หากมีการวางแผนอย่างรอบคอบและเข้าใจเคล็ดลับการบริหารการเงิน คุณก็สามารถก้าวสู่การเป็นเจ้าของบ้านในฝันได้อย่างแน่นอน และในวันนี้เราจะขอพาคุณไปพบกับเคล็ดลับการซื้อบ้านสำหรับผู้ที่มีเงินเดือน 20,000 บาท เพื่อที่จะช่วยทำให้คุณได้บ้านในฝันตามที่คุณต้องการ!
1. ประเมินสถานะการเงินของตัวเอง
อันดับแรกคุณต้องประเมินสถานะการเงินของตัวเอง เพื่อให้มองเห็นภาพรวมว่ารายรับ - รายจ่าย ต่อเดือนของคุณมียอดเท่าไหร่ ? โดยทริคง่าย ๆ เลยก็คือให้คุณตอบคำถามดังต่อไปนี้ให้ละเอียด
- คุณมีรายได้สุทธิเท่าไหร่ต่อเดือน ?
- มีค่าใช้จ่ายคงที่อะไรบ้าง เช่น ค่าเช่าห้อง ค่ารถ ค่าน้ำมัน ฯลฯ
- มีหนี้สินหรือภาระทางการเงินอื่น ๆ หรือไม่ ?
ซึ่งเมื่อคุณรู้ข้อมูลเหล่านี้แล้ว มันก็จะช่วยทำให้คุณประเมินได้ว่าคุณสามารถมีเงินสำหรับผ่อนบ้านได้มากน้อยเพียงใด ? บ้านราคาประมาณเท่าไหร่ที่เหมาะสมกับคุณ ?
2. เลือกบ้านที่เหมาะสมกับงบประมาณของคุณ
สำหรับคนเงินเดือน 20,000 บาท การเลือกบ้านที่เหมาะสมกับงบประมาณเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้คุณมีบ้านในฝันได้อย่างง่ายดาย โดยคุณควรเลือกบ้านที่มีราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท เพื่อให้ภาระการผ่อนอยู่ที่ประมาณ 6,000-8,000 บาทต่อเดือน ซึ่งไม่เกิน 30-40% ของรายได้ และนอกจากราคาของตัวบ้านแล้ว คุณยังต้องคำนึงถึงทำเลที่ตั้งที่เดินทางสะดวก ใกล้ที่ทำงานเพื่อประหยัดค่าเดินทาง และควรเลือกโครงการที่มีโปรโมชั่นช่วยประหยัด เช่น ฟรีค่าโอน ฟรีเฟอร์นิเจอร์ หรือส่วนลดเงินดาวน์ รวมถึงต้องคำนวณค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่จะตามมา เช่น ค่าส่วนกลาง ค่าน้ำ-ไฟ และภาษีที่ดิน เพื่อให้แน่ใจว่าคุณสามารถรับภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมดได้อย่างสบาย ๆ ในระยะยาว
ตารางเปรียบเทียบเงินเดือนและวงเงินที่สามารถกู้ซื้อบ้านได้
เงินเดือน (บาท)
|
ยอดผ่อนชำระต่อเดือน
|
วงเงินกู้สูงสุด (บาท)
|
15,000
|
10,500
|
1,500,000
|
20,000
|
14,000
|
2,000,000
|
30,000
|
21,000
|
3,000,000
|
40,000
|
28,000
|
4,000,000
|
50,000
|
35,000
|
5,000,000
|
60,000
|
42,000
|
6,000,000
|
100,000
|
70,000
|
10,000,000
|
* จากตารางข้างต้น เป็นเพียงการเปรียบเทียบเงินเดือนกับการคาดคะเนวงเงินที่สามารถกู้ได้ โดยคิดจากการประเมินความสามารถในการแบกรับภาระหนี้ของผู้กู้ ในสัดส่วนไม่เกิน 70% ของรายได้
3. ตั้งเป้าหมายการออมเงินดาวน์
ในการซื้อบ้านคุณจำเป็นต้องมีเงินดาวน์ประมาณ 10 - 20% ของราคาบ้าน เพื่อให้การยื่นกู้สินเชื่อกับทางธนาคารนั้นมีโอกาสได้รับการอนุมัติเพิ่มมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้การตั้งเป้าหมายในการออมเงินดาวน์จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยทำให้คุณได้ซื้อบ้านตามที่ฝันเอาไว้ และยังช่วยทำให้คุณมีแรงจูงใจในการเก็บออมเงินมากยิ่งขึ้นอีกด้วย โดยวิธีการเก็บออมเงินดาวน์บ้านก็มีอยู่หลากหลายวิธี อาทิ
- เปิดบัญชีออมทรัพย์แยก เพื่อเก็บเงินดาวน์โดยเฉพาะ
- ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เช่น การทานอาหารนอกบ้านหรือช้อปปิ้งที่ไม่จำเป็น
- หารายได้เสริม เช่น งานฟรีแลนซ์หรือขายของออนไลน์ เพื่อเพิ่มเงินออม เป็นต้น
4. ลดภาระหนี้สินไม่ให้เกิน 40% ของรายได้
การควบคุมภาระหนี้สินให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเป็นกุญแจสำคัญในการเตรียมตัวซื้อบ้าน สำหรับคนที่มีเงินเดือน 20,000 บาท ควรควบคุมภาระหนี้รวมทั้งหมดไม่ให้เกิน 8,000 บาทต่อเดือน หรือ 40% ของรายได้ เพื่อให้มีเงินเหลือสำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็นอื่น ๆ นอกจากนี้ควรรักษาประวัติการชำระเงินให้ดี ไม่ผิดนัดชำระ จ่ายเต็มจำนวนไม่จ่ายขั้นต่ำ ทั้งนี้ก็เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติสินเชื่อบ้าน และได้อัตราดอกเบี้ยที่ดีจากทางธนาคารนั่นเอง
5. ศึกษาสิทธิประโยชน์จากธนาคารและภาครัฐ
ปัจจุบันมีหลาย ๆ ธนาคารและหลาย ๆ โครงการจากภาครัฐ ที่ช่วยสนับสนุนมนุษย์เงินเดือนในการซื้อบ้าน ซึ่งมันก็สามารถช่วยทำให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี อาทิ โครงการบ้านล้านหลัง ที่ให้เงินกู้ดอกเบี้ยพิเศษ, โครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย, สิทธิลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ซื้อบ้านหลังแรก ฯลฯ และในส่วนของธนาคาร ก็มักจะมีแคมเปญพิเศษสำหรับสินเชื่อบ้าน เช่น ดอกเบี้ยต่ำในช่วงแรก ฟรีค่าประเมิน ยกเว้นค่าจดจำนอง หรือส่วนลดค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ซึ่งการติดตามข่าวสารและเปรียบเทียบสิทธิประโยชน์จากหลาย ๆ ธนาคาร จะช่วยให้คุณได้สินเชื่อที่ดีที่สุด และประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อบ้านได้หลายหมื่นถึงหลายแสนบาทเลยทีเดียว
6. หาคนกู้ร่วม
สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้ 20,000 บาทต่อเดือนและอยากมีบ้านในฝัน การหาผู้กู้ร่วมถือเป็นตัวช่วยสำคัญหากต้องการซื้อบ้านที่มีราคาสูงกว่ากำลังผ่อนชำระเพียงลำพัง ซึ่งผู้กู้ร่วมก็เช่น คู่สมรสหรือคนในครอบครัว โดยการกู้ร่วมก็จะช่วยเพิ่มความสามารถในการกู้ ซึ่งทางธนาคารจะพิจารณารายได้รวมของผู้กู้ทั้งหมดเพื่อกำหนดวงเงินกู้ที่สูงขึ้น ทำให้มีโอกาสได้บ้านที่ตรงใจมากขึ้น ทั้งนี้อย่าลืมวางแผนการเงินร่วมกันอย่างรอบคอบและเลือกบ้านที่เหมาะสมกับรายได้ของทั้ง 2 บุคคล เพื่อป้องกันปัญหาหนี้สินหรือปัญหาทางการเงินในอนาคต
7. การวางแผนเผื่อฉุกเฉิน
อย่าลืมเตรียมเงินสำรองเผื่อกรณีฉุกเฉิน เช่น ค่าซ่อมแซมบ้าน ค่าตกแต่งภายใน ฯลฯ ซึ่งการมีเงินสำรองจะช่วยลดความเครียดและความกดดันในระยะยาวสำหรับผู้ที่พึ่งซื้อบ้านนั่นเอง
เห็นไหมล่ะว่าเงินเดือน 20,000 บาท ก็สามารถมีบ้านได้ แถมไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยากเลยแม้แต่น้อย เพียงแต่คุณจำเป็นที่จะต้องวางแผนทางการเงินอย่างรอบคอบ และมีระเบียบวินัยในการใช้จ่ายที่มากขึ้น ทั้งนี้การเลือกซื้อบ้านหรือคอนโดมือสองก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะราคาส่วนใหญ่มักจะต่ำกว่าโครงการมือหนึ่งที่อยู่ในระแวกเดียวกัน ทั้งนี้คุณสามารถเข้าไปเลือกชมบ้านหรือคอนโดมือสองได้ที่ Propertyhub เว็บไซต์ที่รวบรวมประกาศปล่อยเช่า/ขาย อสังหาฯ ทีใช้งานง่ายมากที่สุดแห่งยุค