ในช่วงที่ผ่านมาเราคงจะเคยเห็นข่าวที่มีประเด็นเกี่ยวกับผู้เช่าคอนโดในแง่ลบอยู่เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น ย้ายออกไม่บอก, ไม่ยอมจ่ายค่าเช่า, ผิดสัญญาเช่า, ทำลายสิ่งของภายในห้อง, ค้างค่าน้ำค่าไฟ หรือที่หนักสุด ๆ และเป็นข่าวใหญ่อยู่บ่อย ๆ ก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องที่ผู้เช่าทำห้องสกปรกจนยากที่จะรับได้ ส่งผลให้เจ้าของคอนโดต้องเสียทั้งสุขภาพจิต เสียทั้งเงินค่าทำความสะอาด ค่าเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีกมากมาย
(ตัวอย่างภาพข่าวเกี่ยวกับผู้เช่าคอนโดทำห้องสกปรก)
และจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนอสังหาฯ หรือผู้ที่ต้องการปล่อยเช่าคอนโดเริ่มมองหาวิธีคัดเลือกผู้เช่าคอนโดที่มีวุฒิภาวะและความรับผิดชอบทั้งในเรื่องของการชำระค่าเช่าที่ตรงต่อเวลา การรักษาข้อสัญญาต่าง ๆ และที่สำคัญก็คือการรักษาสภาพภายในห้องไม่ให้สกปรกหรือเกิดการชำรุดเกินกว่าเหตุ ดังนั้นทางทีมงาน Propertyhub จึงจะขอนำเทคนิค “คัดเลือกผู้เช่า” ก่อนตัดสินใจปล่อยเช่าคอนโดมาฝากท่านผู้อ่านทุก ๆ คน และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปพบกับเทคนิคคัดเลือกผู้เช่าคอนโดข้อที่ 1 พร้อม ๆ กันเลย
รายละเอียดข้อมูลส่วนบุคคล
การขอรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เช่าจะช่วยทำให้คุณสามารถวิเคราะห์ผู้เช่าได้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว โดยรายละเอียดที่คุณควรจะต้องสอบถามและขอเอกสารกับผู้เช่านั้น ก็ประกอบไปด้วย
ชื่อ – นามสกุล, สัญชาติ, เบอร์โทรศัพท์, สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน : ซึ่งรายละเอียดในส่วนนี้จะถูกระบุไว้ในสัญญาเช่า ซึ่งคุณอาจจะไม่ต้องขอหรือสอบถามกับทางผู้เช่า หากเขากรอกรายละเอียดต่าง ๆ ครบถ้วน
อาชีพ : โดยคุณอาจจะขอใบรับรองการทำงานหรือสลิปเงินเดือนล่าสุด หรือขออนุญาตโทรสอบถามกับทางบริษัทผู้ว่าจ้าง เพื่อสอบถามว่าผู้เช่ายังคงมีสถานะเป็นพนักงานอยู่หรือไม่ ? เพื่อป้องกันในกรณีที่ผู้เช่าลาออก ย้ายงาน และนำเอกสารเก่ามามอบให้กับเรา โดยการสอบถามรายละเอียดในส่วนนี้จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวผู้ที่ต้องการเช่าคอนโด ทั้งนี้ในกรณีที่ผู้เช่าเป็นนักศึกษาหรือประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัว, Freelance, ขายสินค้าออนไลน์ ฯลฯ คุณก็อาจจะไม่สามารถตรวจเช็ครายละเอียดในส่วนนี้ได้อย่างครบถ้วน ดังนั้นคุณก็สามารถข้ามไปขอเช็คข้อมูลรายละเอียดในข้อต่อไปได้เลย
สอบถามเหตุผลจากการย้ายออกจากที่พักเดิม : ให้คุณสอบถามกับทางผู้เช่าว่าย้ายออกจากที่พักเดิมเพราะอะไร ? (ฟังหูไว้หู อย่าพึ่งเชื่อไปซะหมด) พร้อมกับขออนุญาตติดต่อสอบถามกับทางเจ้าของที่พักเดิม เพื่อจะได้เช็ดประวัติการจ่ายค่าเช่าว่าตรงเวลาหรือไม่ ? มีปัญหาอะไรระหว่างที่เช่าหรือเปล่า ? ซึ่งข้อมูลในส่วนนี้จะช่วยคัดกรองผู้เช่าได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ
รายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติม : เช่น พักอาศัยอยู่กี่คน ? (คุณควรระบุไว้ในสัญญาเช่าอย่างชัดเจน) มีการเลี้ยงสัตว์หรือไม่ ? สูบบุหรี่หรือเปล่า ? ทั้งนี้เพื่อนำข้อมูลต่าง ๆ ไปประกอบการตัดสินใจในการปล่อยเช่าคอนโด
ข้อมูลบุคคลอ้างอิง : เพื่อติดต่อในกรณีฉุกเฉิน
ขอเอกสารการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม
อีกหนึ่งเอกสารที่คุณควรจะขอจากผู้เช่าเลยก็คือ “ประวัติอาชญากรรม” โดยทางผู้เช่าสามารถส่งเรื่องขอเอกสารใบรับรองได้ทาง กองทะเบียนอาชกร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเอกสารฉบับนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะจะช่วยทำให้ผู้ปล่อยเช่าคอนโดเกิดความสบายใจว่าผู้เช่าไม่ได้กระทำความผิดร้ายแรงหรือหลบหนีการจับกุมมากบดานที่คอนโดของคุณ
ยิ่งในปัจจุบันนี้มักจะมีข่าวออกมาอยู่บ่อย ๆ ว่าตำรวจบุกจับปาร์ตี้ยา, บุกจับปาร์ตี้มั่ว Sex, บุกจับอาชญากรที่กำลังหลบหนีหรือกบดาน ฯลฯ ที่มักจะเกิดขึ้นตามคอนโด หอพักหรืออพาร์ทเม้นท์ ซึ่งมันคงจะไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่นักหากเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นภายในคอนโดของคุณ ส่งผลให้ “ประวัติอาชญากรรม” จึงเป็นเอกสารอีกหนึ่งสิ่งที่ผู้ปล่อยเช่าคอนโดไม่ควรที่จะมองข้าม ทั้งนี้ควรอธิบายในการขอเอกสารฉบับนี้ให้กับผู้เช่าได้เข้าใจตรงกันด้วย
ตรวจเช็คเครดิตบูโร
รายละเอียดในส่วนนี้จะช่วยตรวจเช็คพฤติกรรมทางการเงินของผู้เช่าว่าเป็นอย่างไร ? มีความรับผิดชอบต่อการชำระหนี้ที่ตรงต่อเวลาหรือไม่ ? แต่ทั้งนี้ผู้เช่าอาจจะมองว่าผู้ปล่อยเช่าคอนโดนั้นเรื่องเยอะมากพอสมควร ดังนั้นคุณควรที่จะอธิบายให้เข้าใจว่าทำไมเราถึงต้องการเอกสารฉบับนี้ ซึ่งถ้าหากผู้เช่าบ่ายเบี่ยงหรือไม่เห็นด้วยกับการตรวจสอบเครดิตบูโร(แม้ว่าเราจะอธิบายให้เขาเข้าใจแล้วก็ตาม) ก็ให้คุณคิดเอาไว้เลยว่าผู้เช่ารายนี้มีความสุ่มเสี่ยงที่อาจจะมีพฤติกรรมในเชิงลบเกี่ยวกับการเงิน เช่น มีภาระหนี้สูง ติดเครดิตบูโร ชำระหนี้ล่าช้า ฯลฯ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อการจ่ายค่าเช่าคอนโดในอนาคตอย่างแน่นอน (รายละเอียดการเช็คเครดิตบูโร คลิก)
เชื่อในความรู้สึกของตัวเอง
เมื่อไหร่ที่รู้สึกไม่สบายใจหรือรู้สึกไม่โอเคกับผู้ที่ต้องการมาเช่าคอนโด ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม(ทั้ง ๆ ที่คุณควรจะต้องดีใจ เพราะจะมีคนมาเช่าคอนโด) คุณก็อาจจะต้องลองเชื่อสัญชาตญาณหรือ Sense ของตัวเองดูสักครั้ง ซึ่งอาจจะฟังดูไร้เหตุผลและไม่สามารถหาเหตุผลอะไรมาอ้างอิงได้ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณปล่อยคอนโดให้กับคนที่คุณรู้สึกไม่ค่อยดีเช่า ก็แน่นอนเลยล่ะว่าความสบายใจมันจะหายไป เพราะคุณก็จะคอยพะว้าพะวงว่าเขาจะจ่ายค่าเช่าตรงไหน ? จะทำห้องพังหรือเปล่า ? หรือฉันคิดผิดหรือเปล่าที่ปล่อยคอนโดให้บุคคลนั้นเช่า ? ฯลฯ ฉะนั้นหากรู้สึกไม่สบายใจจริง ๆ ก็ให้คุณเชื่อในความรู้สึกของตัวเองและปฏิเสธผู้เช่ารายนั้นไป
ทำสัญญาเช่าให้รัดกุม
หลังจากที่คุณพิจารณาแล้วว่าจะปล่อยคอนโดให้กับผู้เช่า ลำดับต่อมาเลยก็คือ “การทำสัญญาเช่า” โดยรายละเอียดในสัญญาจะต้องชัดเจนในทุก ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็น กฎข้อห้าม, ระยะเวลาในการจ่ายค่าเช่า, ค่าปรับในส่วนต่าง ๆ และรายละเอียดในส่วนอื่น ๆ เพื่อให้ทั้งผู้เช่าและผู้ปล่อยเช่ามีความเข้าใจที่ตรงกันโดยมีลายลักษณ์อักษรและลายเซ็นต์เป็นหลักฐาน ทั้งนี้ไม่ควรปล่อยคอนโดให้เช่าโดยไม่ทำสัญญาอย่างเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นในทางกฎหมายผู้ให้เช่าจะเสียเปรียบในทันทีหากมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น อีกทั้งหากผู้เช่าต้องการเปลี่ยนข้อตกลงในสัญญาเช่า เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับตนเอง เช่น ไม่คิดค่าปรับการจ่ายล่าช้า, การนำผู้อื่นเข้ามาพักอาศัย ฯลฯ คุณจะต้องพิจารณาเป็นกรณีว่าสามารถยินยอมได้มากน้อยขนาดไหน ซึ่งถ้าหากบางกรณีสามารถประนีประนอมกันได้ก็สามารถแก้ไขรายละเอียดในสัญญาเช่าได้เลย
หลาย ๆ คน อาจจะคิดว่ารายละเอียดทั้งหมดที่เราได้กล่าวไปนั้นมันจะทำให้เราดูเป็นคนที่เรื่องเยอะหรือเปล่า ? ดูวุ่นวายหรือจุกจิกกับผู้ที่ต้องการเช่าเกินไปหรือไม่ ? ซึ่งเราก็คงจะต้องขอตอบตรงนี้เลยว่า...การคัดกรองหรือคัดเลือกผู้เช่าถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนในการทำธุรกิจ เพราะถ้าหากคุณไม่คัดเลือกผู้เช่านั่นก็อาจจะทำให้คุณต้องเจอกับผู้เช่าที่ไร้ความรับผิดชอบ(ตามข่าวที่ออกกันอยู่บ่อย ๆ )หรือส่งผลเสียให้แก่คุณในด้านต่าง ๆ จนเป็นเหตุให้คุณต้องเสียเงินโดยใช่เหตุ เช่น ค่าจ้างทำความสะอาดห้อง, ค่าเฟอร์นิเจอร์ใหม่, ค่าจ้างทนายฟ้องร้องผู้เช่า ฯลฯ ดังนั้นการคัดเลือกหรือคัดกรองผู้เช่าจึงกลายเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยทำให้การปล่อยเช่าคอนโดของคุณสามารถสร้างผลกำไรได้ในระยะยาวนั่นเอง
อีกทั้งการคัดกรองผู้เช่ายังจะช่วยทำให้คุณได้เจอกับผู้เช่าที่มีความรับผิดชอบ ไม่สร้างความเดือดเนื้อร้อนใจให้กับคุณทั้งทางตรงและทางอ้อม เพราะอย่าลืมว่าคอนโดก็เป็นอีกหนึ่งทรัพย์สินที่มีมูลค่าที่สูงมากเช่นเดียวกับทรัพย์สินประเภทอื่น ๆ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจอะไร หากคุณจะต้องคัดเลือกผู้เช่าอย่างถี่ถ้วน ทั้งนี้ผู้ที่ประกอบกิจการหอพัก/อพาร์ทเม้นท์ ก็สามารถนำเทคนิคต่างๆ ข้างต้นไปปรับใช้ได้เช่นเดียวกัน และไว้โอกาสหน้าทีมงานจะนำข้อมูลดี ๆ อะไรมาฝากคุณอีก คุณก็สามารถติดตามบทความที่น่าสนใจแบบนี้ได้ที่ Propertyhub Blog บทความที่รวมทุก Lifestyle ของชาวคอนโด