หลายคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในคอนโดมักจะเคยเจอสถานการณ์แบบนี้ เช่น กลับมาจากทำงาน รถโดนเฉี่ยว ฝากระโปรงเป็นรอย หรือกระจกมองข้างพัง แน่นอนว่าเรื่องแรกที่นึกถึงคือ “ประกันรถยนต์” ที่เราจ่ายค่าเบี้ยทุกปี และหวังว่ามันจะช่วยให้เบาใจเมื่อเกิดเหตุแบบนี้ขึ้น แต่พอโทรแจ้งประกันกลับได้รับคำตอบที่น่าผิดหวังว่าเคลมไม่ได้เพราะไม่มีคู่กรณี! คำตอบแบบนี้ทำให้หลายคนเกิดคำถามว่า “แล้วจะมีประกันไว้ทำไม ?”
แต่ก่อนที่จะโทษใคร เราอาจจะต้องกลับมาทบทวนก่อนว่า เราเข้าใจเรื่องความคุ้มครองของประกันรถยนต์ที่เราซื้อดีพอหรือยัง ? เพราะบางครั้งเราอาจจะไม่ได้ตรวจสอบหรือลงรายละเอียดอะไรเยอะตอนซื้อ พอตอนจะเคลมก็มาปวดหัวแบนี้ ดังนั้นวันนี้เรามาดูเรื่องนี้กันอีกรอบ

เหตุผลที่ประกันจะไม่รับเคลม เมื่อรถเสียหาย!
เหตุที่หลายคนเข้าใจว่า “ประกันไม่ช่วยตอนรถจอดอยู่” มักเกิดจากประสบการณ์ตรงหรือการฟังจากผู้อื่นโดยไม่ได้เข้าใจรายละเอียดในเงื่อนไขของประกันรถยนต์อย่างจริงจัง จริง ๆ แล้วการที่ประกันจะช่วยหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น
- ประเภทของประกันรถยนต์ที่ทำไว้
- รายละเอียดของประกันในกรมธรรม์
- สถานการณ์และพยานหลักฐาน ณ จุดเกิดเหตุ
- การตีความของเจ้าหน้าที่ประกันในกรณีนั้น ๆ
เราจะมาแยกให้เห็นชัดเจนว่าประกันแต่ละประเภทให้ความคุ้มครองอย่างไรบ้าง
ประกันภัยรถยนต์แต่ละชั้น คุ้มครองรถในกรณีใดบ้าง
ประกันรถยนต์ชั้น 1 ครอบคลุมที่สุด
หากคุณเลือกทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่จอดรถในคอนโด เพราะคุ้มครองทั้งแบบมีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี เช่น
- รถมีรอบขีดข่วน
- ของจากตัวอาคารตกใส่รถ
- รถโดนเฉี่ยว
- เด็กเล่นบอลโดนรถจนบุบ
- แมวข่วนฝากระโปรงรถ
สิ่งเหล่านี้อยู่ในขอบเขตของ “การเคลมแห้ง” ที่ไม่ต้องมีคู่กรณีก็สามารถเคลมได้ หากมีหลักฐานหรือแจ้งเหตุไว้ในเวลาที่เหมาะสม
ข้อควรรู้: การเคลมแบบไม่มีคู่กรณี อาจมีผลกระทบกับเบี้ยประกันรถยนต์ในปีถัดไป คือเบี้ยจะเพิ่มขึ้นนิดหน่อย เพราะถือว่าใช้สิทธิ์เคลม
ประกันภัยชั้น 2+ และ 3+ คุ้มครองแค่ตัวรถ
สองประเภทนี้ถือว่า “คุ้มครองแค่เฉพาะตัวรถ” และมีเงื่อนไขสำคัญ คือต้องมี “คู่กรณี” ที่สามารถระบุได้ชัดเจน เช่น รถอีกคัน, ชื่อคนชน, หมายเลขทะเบียน และต้องสามารถนำมายืนยันกับบริษัทประกันได้
หากคุณจอดรถอยู่แล้วกลับมาพบว่ารถเป็นรอยแต่ไม่รู้ว่าใครทำ เช่น
- รถโดนชนมีรอยบุบ หรือชนแล้วหนี
- รถมีรอยขีด
- เศษกระจกตกใส่รถ
จะไม่สามารถเคลมประกันได้ เพราะไม่เข้าเงื่อนไขของการคุ้มครองตัวรถแบบไม่มีคู่กรณี
ประกันภัยชั้น 3 ไม่คุ้มครองตัวรถ
หลายคนที่ทำประกันชั้น 3 ด้วยเหตุผลเรื่องค่าเบี้ยที่ถูกที่สุด อาจคิดว่าแค่มีประกันก็พอแล้ว แต่ในกรณีที่รถเสียหายจากการจอด ประกันชั้น 3 ไม่ช่วยอะไรเลย เพราะ
- ประกันไม่คุ้มครองตัวรถ
- คุ้มครองแค่บุคคลภายนอก
จึงถือว่าเป็นประกันภัยที่เหมาะสำหรับรถอายุเยอะหรือรถที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน ไม่เหมาะกับคนที่จอดรถในพื้นที่เสี่ยง

คอนโดหรือฝ่ายนิติ ต้องรับผิดชอบหรือไม่ ?
คำถามยอดฮิตคือ ถ้าเราจอดรถในคอนโด แล้วเกิดเหตุใด ๆ ขึ้น ฝ่ายนิติของคอนโดต้องรับผิดชอบหรือไม่
มีหลักการต้องพิจารณาดังนี้
- มีมาตรการรักษาความปลอดภัยเพียงพอหรือไม่
เช่น มีกล้องวงจรปิดหรือไม่ รปภ.ตรวจตราหรือไม่ ไฟส่องสว่างเพียงพอไหม
- เกิดจากความประมาทของนิติหรือไม่
เช่น หากมีกล้องวงจรปิดเสียนานโดยไม่ซ่อม หรือรปภ.ละเลยหน้าที่ ก็อาจเข้าข่ายความประมาทที่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้
แต่การเรียกร้องจากฝ่ายนิติไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องใช้พยานหลักฐาน และอาจต้องใช้เวลานานกว่าจะได้ข้อสรุปทางกฎหมาย ดังนั้น การมี “ประกันรถยนต์ชั้น 1” เป็นทางออกที่รวดเร็วกว่า
เคล็ดลับลดความเสี่ยงเวลาใช้ลานจอดรถของคอนโด
ถึงจะมีประกันแล้ว ก็ไม่ควรประมาท นี่คือเคล็ดลับง่าย ๆ ที่ช่วยลดความเสี่ยงและช่วยให้เคลมง่ายขึ้น :
- หลีกเลี่ยงจอดในมุมอับสายตา หรือมุมที่กล้องวงจรปิดจับไม่ถึง
- พยายามจอดในจุดที่มีแสงสว่างเพียงพอ
- ถ่ายภาพตัวรถเอาไว้ทุกครั้งหากต้องจอดทิ้งข้ามคืน
- หากเกิดเหตุให้รีบแจ้ง รปภ. หรือนิติให้ทำบันทึกไว้ พร้อมขอดูกล้องวงจรปิด
- จดเบอร์ติดต่อฉุกเฉินของประกัน ฝ่ายนิติ และ รปภ. ไว้ให้พร้อม
เคลมประกันยังไงเมื่อ "ไม่มีคู่กรณี"
หากคุณทำประกันรถยนต์ชั้น 1 แล้วเกิดเหตุในลานจอดรถคอนโด นี่คือขั้นตอนการเคลมประกัน
- โทรแจ้งบริษัทประกันทันที เพื่อขอเปิดเคลม และให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่
- ถ่ายภาพจุดเกิดเหตุให้ชัดเจน ทั้งบริเวณรอบรถ จุดเสียหาย และภาพกว้าง
- ขอบันทึกจาก รปภ. หรือนิติบุคคล เพื่อยืนยันว่าเกิดเหตุจริง
- สอบถามเรื่องกล้องวงจรปิด หากมีกล้องที่จับภาพไว้ได้จะช่วยเร่งเรื่องมากขึ้น
- เก็บหลักฐานทั้งหมดไว้ เช่น สำเนากรมธรรม์, บันทึกแจ้งความ, รูปถ่าย
คำแนะนำ : แจ้งเคลมให้เร็วที่สุด อย่าปล่อยไว้หลายวัน เพราะบริษัทประกันอาจไม่รับเคลมหากเหตุการณ์ผ่านไปนานและไม่มีหลักฐานเพียงพอ
การจอดรถในคอนโดอาจดูเป็นเรื่องธรรมดา แต่ความเสี่ยงที่มากับมันไม่ธรรมดาเลย ทั้งจากรถคันอื่น, สภาพอาคาร, คนแปลกหน้า หรือแม้แต่สัตว์ที่อาจก่อความเสียหายกับรถของคุณ คำว่า “ประกันไม่ช่วยอะไร” ที่ได้ยินกันอาจเกิดจากการเลือกประเภทประกันที่ไม่เหมาะสมกับรถของคุณ หรือเข้าใจผิดเกี่ยวกับความคุ้มครองจริง ๆ ของกรมธรรม์
หากคุณอยากจอดรถแบบไม่ต้องกังวล แนะนำให้เลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 1 เพราะคุ้มครองได้ทุกกรณี ไม่ต้องพิสูจน์คู่กรณีให้ยุ่งยาก ไม่ต้องรอนิติคอนโดให้เสียเวลา เช็กประกันของคุณวันนี้ ว่าให้ความคุ้มครองมากพอหรือยัง อย่ารอให้เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นแล้วต้องเสียเงินเอง ความคุ้มครองที่ดีเริ่มต้นได้ที่การเลือกประกันให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ และคุณสามารถเลือกประกันที่เหมาะสมได้ที่ Asia direct