สอนทักษะเอาตัวรอด เมื่อลูกติดอยู่ในรถคนเดียว

เรามักจะได้ยินข่าวเหตุการณ์พ่อแม่ ลืมเด็กไว้ในรถตามลำพังเป็นเวลานาน และหลายครั้งนำมาซึ่งเหตุการสู่การสูญเสียครั้งสำคัญของครอบครัวโดยไม่ได้ตั้งใจ

เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับลูกคุณได้เสมอ แม้คุณพ่อคุณแม่จะระมัดระวังอย่างดีแค่ไหน แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันอาจเกิดขึ้นได้ วันนี้เราจึงมาแนะนำวิธีสอนทักษะเอาตัวรอดให้กับลูก หากเกิดเหตุไม่คาดคิด “เราลืมลูกไว้ในรถ และลูกติดอยู่ในรถคนเดียว” มาฝากคุณพ่อคุณแม่สอนวิธีเอาตัวรอดให้เด็กๆ กัน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดดังกล่าวขึ้น

วิธีสอนเด็กเอาตัวรอด หากติดในรถคนเดียว

สอนให้เด็กรู้ว่าการติดอยู่ในรถนานๆ เป็นเรื่องอันตราย เด็กๆ อาจไม่รู้ว่า การอยู่ในรถที่จอดหยุดนิ่งโดยมิได้ติดเครื่องยนต์ตามลำพัง มีความอันตรายอย่างไร ทำไมจึงต้องขอความช่วยเหลือ พ่อ-แม่ควรสอน และอธิบายให้เข้าใจ ว่าการติดอยู่ในรถ ลูกจะต้องเจอกับอากาศร้อน อึดอัดไม่มีอากาศหายใจ จะต้องช่วยเหลือตัวเองอย่างไร โดยมีขั้นตอนการสอนดังนี้

1. สอนให้เปิด-ปิดประตูรถเป็น พ่อ-แม่ต้องสอนให้ลูกเปิดประตูรถให้เป็น สาธิตให้ลูกดู และลองให้ลูกใช้มือเปิด-ปิดประตูรถด้วยตัวเอง เพื่อสร้างการจดจำให้ลูก และต้องสอนว่าไม่ควรเปิดประตูเล่นขณะรถกำลังวิ่ง และควรเปิดประตูรถเมื่อจำเป็นในตอนไหน
2. สอนให้รู้จักปุ่มปลดล็อกประตูรถ ลูกต้องกดปุ่มตรงไหน ประตูรถจะเปิดออก ฝึกให้ลูกกดปลดล็อกประตู เปิดประตูด้วยตัวเอง และต้องสอนให้เข้าใจด้วยว่าควรเปิดในเวลาฉุกเฉินเท่านั้น 
3. ฝึกให้เปิดกระจกรถเป็น ก่อนอื่นต้องสอนให้ลูกทราบว่า คนเรามีชีวิตได้ด้วยการหายใจ หากเราไม่มีอากาศหายใจเราจะไม่สามารถดำรงชีวิตได้ เมื่อลูกทราบเรื่องพื้นฐานแล้วให้เข้าสู่เรื่องของการอยู่ในรถ หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันดังกล่าว เด็กจะได้ทราบว่านี่คือเหตุการณ์ฉุกเฉิน ต้องหาวิธีทำให้คนภายนอกช่วยเหลือได้ โดยพื้นฐานที่สุดคือต้องหายใจได้ก่อน เราต้องสอนให้ลูกรู้ว่าจะให้คนอื่นช่วยเหลือได้ ต้องทำให้คนเห็นทางกระจก และพยายามทำให้คนเห็นก่อน ซึ่งถ้าสามารถเปิดกระจกได้แล้ว ก็จะทำให้หายใจได้สะดวก มีอากาศถ่ายเท ส่งเสียงเรียกให้ผู้อื่นมาช่วยได้
4. สอนเรื่องการบีบแตรรถ แตรรถยนต์ส่วนใหญ่สามารถทำงานได้แม้ไม่ได้ติดเครื่องยนต์ หากกรณีติดอยู่ในรถต้องบีบแตรให้มีเสียงดัง บีบเป็นจังหวะเรื่อยๆ บอกให้ลูกเข้าใจว่าต้องบีบแตร จนกว่าจะมีคนมาช่วยเหลือ เพราะการบีบแตรมีเสียงที่ดังมาก สามารถสร้างความสนใจให้กับคนโดยรอบ โดยหากบีบแตรเป็นจังหวะ คนในบริเวณนั้นจะพอสันนิฐานได้ว่าน่าจะเกิดเรื่องฉุกเฉินขึ้น
5. ควรสอนให้ลูกใช้มือถือเป็น หากพ่อ-แม่ให้ลูกพกโทรศัพท์มือถือ ควรสอนการใช้งานเบื้องต้นให้เด็กๆ เข้าใจว่าหากเกิดเหตุฉุกเฉิน ติดอยู่ในรถคนเดียว จะต้องกดโทรหาพ่อ-แม่ทันที

ตรวจสอบทุกอย่างก่อนลงจากรถ

สุดท้ายแล้ว ทางที่ดีที่สุดคือคุณพ่อและคุณแม่ควรตรวจสอบทุกอย่างก่อนลงจากรถว่าเราไม่ลืมอะไร และที่สำคัญเวลาเราออกไปจากรถ ไม่ควรทิ้งลูกไว้ในรถเด็ดขาด เพราะเด็กอาจจะไปกดปุ่มล็อกประตูรถเองได้โดยที่เราไม่ได้ตั้งใจ อันอาจเกิดเหตุไม่คาดฝันดังกล่าวได้

สุดท้ายนี้อยากฝากคุณพ่อคุณแม่ทุกท่าน เด็กจะเรียนรู้ได้ไว เมื่อได้ลงมือทำด้วยตัวเอง โดยเราควรจำลองสถานการณ์ดังกล่าวเพื่อฝึกให้ลูกทำซ้ำๆ หรือหาตัวช่วยพิเศษ เช่น การเปิดภาพนิทาน การ์ตูน คลิปวิดีโอจำลองเหตุการณ์ อธิบายประกอบให้เขาจดจำได้มากขึ้น เพื่อให้เขาเตรียมตัว มีสติรับมือได้หากต้องติดอยู่ในรถคนเดียวในสถานการณ์อื่นๆ ก็เป็นไปได้

ติดตามรีวิวรถออกใหม่ เช็คราคาและตารางผ่อนรถยนต์ รถจักรยานยนต์ พร้อมอัปเดตข่าวสารในวงการรถยนต์ก่อนใคร ที่เว็บไซต์ Autospinn หรือจะค้นหารถมือสอง ราคาโดน ๆ พร้อมโปรโมชั่นที่น่าสนใจ ต้องนึกถึง one2car ตลาดซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย